ในบทความนี้
เราจะแนะนำ “ขั้นตอนการเตรียมและทำเล็บเจลเอง”
สำหรับเพื่อนๆที่อยากเริ่มทำเล็บเจล
เพื่อนๆที่กำลังอ่านอาจสงสัยว่า
“ฉันจะทำเล็บเจลเองได้มั้ย?”
“แค่ทาสีเล็บก็ไม่เก่ง จะทำเล็บเจลได้เหรอ?”
“ทำเล็บเจลยังไงล่ะ?”
เนื่องจากฉันสอนการทำเล็บเองและสอนคนมือใหม่
วันนี้จะบอกเคล็ดลับในจุดต่างๆให้…
・จุดที่คนมือใหม่ที่มักจะเข้าใจผิด
・จุดที่ทำยาก
・จุดที่เข้าใจยาก
คนที่กำลังทำเล็บเองแต่ทำไม่สวยอยู่ก็ลองดูนะคะ
จุดที่ต้องเช็ค
โดยเฉพาะ จุดที่บอกว่า “1.การเตรียมก่อนทาเจล” ต้องเช็คนะคะ!
การที่เจลลอกเป็นปัญหาหนึ่งสำหรับคนที่ไม่เคยเรียนและคนมือใหม่
คนที่เจลลอกมักจะทาเจลก่อนเตรียม ข้ามขั้นตอนเลย
การเตรียมก่อนทาเจลสำคัญมากเพื่อจะให้เจลทนทานนานขึ้น ต้องทำถูกวิธีนะ
ลองเอาไปใช้ดูนะคะ^^
▼ขั้นตอนทำเล็บเจล
１. ก่อนทาสีเจล
Step１：ปรับทรงเล็บ
Step２：ดันหนังเล็บ（และใช้กรรไกรตัดหนังเล็บ）
Step３：ใช้ไฟล์ขัดเล็บ (เรียกว่า Sanding)
Step４：นำเศษเล็บออกและขจัดคราบมัน
２. ทาเล็บเจล（สีเดียว）
Step１：ทาเล็บเจลรองพื้น (base gel)
Step２：ทาสีเจล（รอบแรก）
Step３：ทาสีเจล（รอบที่ 2）
Step４：ทาเจลเคลือบ ( top gel )
Step５：เช็ดเจลที่ไม่แห้งออกไป
▲ทำเล็บด้วยสีเดียว💕
１. วิธีเตรียมก่อนทาเจลเล็บ
【อุปกรณ์ที่จะใช้】
①แผ่นแอลกอฮอล์เช็ดหน้าเล็บ（ผ้าที่ไร้ขน）
②สำลี
③กระดาษทิชชู（ที่ตัดไว้แล้ว）
④แอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อ
⑤Cuticle remover
⑥ตะไบฟองน้ำ（ความละเอียด180）
⑦แผ่นขัดเล็บ（ความละเอียด150/220）
⑧เหล็กดันหนัง(สแตนเลส)
⑨เหล็กดันหนัง(เซรามิค)
⑩แปรงปัดฝุ่นเล็บ
⑪กรรไกรตัดหนังเล็บ
⑫เครื่องอบเจล LED（ใช้ตอนทาเจล）
※ถ้าไม่มีแผ่นแอลกอฮอล์เช็ดหน้าเล็บ ใช้กระดาษทิชชูแทนได้
🍀คราวนี้เราจะใช้อุปกรณ์ที่เป็นชุดที่ใช้ในห้องเรียนเราที่เลือกมาอย่างดี
Step１：ปรับทรงเล็บ
เตรียมอุปกรณ์ก่อน
เอากระดาษทิชชูชุบแอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อและฆ่าเชื้อนิ้วมือ
🌼เคล็ดลับ
ถ้าทาครีมทามือหรือ Cuticle Oil อยู่ ให้ล้างออกไว้
เพราะเจลที่จะทา จะลอกง่ายถ้าหน้าเล็บมีคราบมัน
▲เล็บที่ยังไม่ได้ปรับทรง
ฆ่าเชื้อเสร็จ ใช้แผ่นขัดเล็บปรับทรงเล็บ
ทรงเล็บมีหลายแบบ แต่คนมือใหม่ให้พยายามทำเล็บให้เรียบก่อน!
▼ขั้นตอนปรับทรงคือ①-③。
ต้องขัดทางเดียว
ลูกศร ② กับ ③ เป็นทางที่จะขัด
ทำตามขั้นตอน ①-③ เป็นขั้นตอนที่ถูกต้อง แต่ถ้าไม่ใช่ขั้นตอนนี้แต่เรียบแล้วก็โอเค ไม่เป็นไร!
ทำ ①→②→③ แล้วกลับมาทำ ① ก็ได้◎
🌼เคล็ดลับ
ถ้าใช้แผ่นขัดเล็บจะมีเศษเล็บเหลือ
ถ้าเศษนี้ยังมีอยู่ ทาสีเจลไม่สวย ดังนั้นใช้ตะไบฟองน้ำเพื่อนำเศษเล็บออก
เอาตะไบฟองน้ำไว้หลังเล็บ ขยับเบาๆ แล้วเศษเล็บจะออกไป
▼เล็บที่ปรับทรงแล้ว!
Step２：ดันหนังให้ขึ้น
ปรับทรงเล็บแล้ว ดันหนังให้ขึ้น
🌼เพื่อ
・ให้ขอบเล็บชัด ทาเจลง่ายขึ้น และทนทานนาน!
・ให้ดูสวยขึ้น!
อุปกรณ์ที่ดันหนัง สแตนเลสหรือเซรามิค อันไหนก็ได้
คนมือใหม่หรือคนที่หนังติดกับเล็บ ใช้เซรามิคจะดี
🌼เคล็ดลับและข้อเตือนใจ
หลายคนใช้ไม้ดันหนังที่เป็นเซรามิคที่มีนำ้มันด้วย
แต่ขออย่าใช้ไม้ดันหนังที่เป็นเซรามิคที่มีน้ำมัน!!
ถ้ามีน้ำมัน เจลจะลอกง่าย
วิธีดันหนังคือ
ทา Cuticle remover（น้ำยาช่วยหนังเล็บนุ่ม）ที่หนังและใช้เหล็กดันหนัง
▼หลายคนไม่ชอบใช้เหล็กดันหนังที่เป็นสแตนเลส…
เพราะตอนไปร้านทำเล็บ ใช้สแตนเลสแล้วเจ็บ
การที่เราจะตั้งที่ดันหนังเอียงกี่องศาและจะใช้น้ำหนักกดแรงขนาดไหนเป็นเรื่องสำคัญ!!
ถ้าตั้งแล้วจะดันหนังง่าย ไม่เจ็บ
อย่าดันแรงๆ!!!
ถ้ารู้สึกเจ็บ แสดงว่าใช้แรงเกินไป
จากมุมซ้ายไปมุมขวา ค่อยๆขยับและดัน
ตรงมุมตั้งเอียงและดันหนัง
（เหล็กดันหนังที่เป็นสแตนเลสก็ใช้วิธีเดียวกัน）
▼ถ้าดันหนังได้แล้ว…
ใช้แผ่นแอลกอฮอล์เช็ดหน้าเล็บที่ชุบแอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อ（กระดาษทิชชูก็ได้）เช็ดเศษเล็บและถ้าจำเป็นใช้กรรไกรตัดหนังเล็บ
🌼เคล็ดลับ
หลายคนถามว่า…ต้องใช้กรรไกรตัดหนังเล็บมั้ย?
ก็ไม่ใช่ทุกคนค่ะ
มีบางคนไม่ต้องใช้
บางคนตัดหนังเกินไปทำให้เจ็บ ต้องระวังนะคะ!
Step３：ให้หน้าเล็บเรียบและทำให้เล็บเป็นขุยๆ
ดันหนังเสร็จ ใช้ตะไบฟองน้ำขัดหน้าเล็บให้เป็นขุยๆ
ขัดเบาๆ เอาตะไบฟองน้ำติดกับทั้งหน้าเล็บและขยับ
ถ้าขัดแรงๆเล็บจะบาง ต้องระวังนะคะ!!
🌼เคล็ดลับ
ขัดหน้าเล็บเพื่อให้เล็บตัวเองกับเจลสำหรับรองพื้นจะติดกันดี
มีเจลสำหรับรองพื้นที่ไม่ต้องขัดก่อน แต่ส่วนใหญ่ขัดก่อนทาจะได้ทนทานนาน
▼เมื่อใช้ตะไบฟองน้ำขัดเล็บ เล็บที่แยกจากเนื้อก็จะไม่มี!
▼ถ้าทำทั้งเล็บให้เป็นขุยๆก็โอเคแล้ว!
ขัดหน้าเล็บให้ขาวๆ
ถ้าหน้าเล็บขุยๆ เจลก็ติดง่าย
🌼เคล็ดลับ
▼บทความที่อยากให้คนที่เล็บแยกจากเนื้ออ่าน
Step４：เช็ดทำความสะอาดหน้าเล็บ นำเศษออก
ขัดหน้าเล็บใน Step３แล้ว เช็ดเศษเล็บที่อยู่หน้าเล็บ
เอาแผ่นแอลกอฮอล์เช็ดหน้าเล็บ (หรือกระดาษทิชชู) มาชุบแอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อ และเช็ดหน้าเล็บนำเศษเล็บออก
เช็ดให้ทั่ว
▼เล็บที่เช็ดทำความสะอาดแล้ว✨
ถึง Step４เป็นขั้นตอนก่อนทาเจล!
ขั้นตอนถัดไป จะได้ทาเจลแล้ว
2. ทาเจล（สีเดียว）
【อุปกรณ์ที่จะใช้】
①เครื่องอบเจล LED（ไฟที่ทำให้เจลแห้ง）
②พู่กันทาเจล（กลม）
③ไม้ส้ม（เพื่อเอาสีนอกเล็บออก）
④spatula หรือไม้จิ้มฟัน（ใช้ตอนที่ผสมสีเจล）
⑤แอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อ（เพื่อทำความสะอาดพู่กัน, เช็ดเจลที่ไม่แห้ง）
⑥กระดาษทิชชู
⑦สำลี
⑧เจลต่างๆ（เจลรองพื้น,สีเจล, เจลเคลือบ）
⑨หมอนรองมือ
※ไม่มีหมอนรองมือก็ทำได้
Step１：ทาเจลสำหรับรองพื้น
เจลแรกที่ทาเล็บ เรียกว่า “เจลสำหรับรองพื้น (base gel)”
เคล็ดลับ:
ทาเจลตั้งแต่หนังเล็บให้เว้นช่องประมาณเส้นผม 1-2 เส้น（0.5 มิลลิเมตร）
เพราะเจลจะไม่ติดกับหนัง
ถ้าทาที่หนังและแห้ง จะลอกจากที่นั่น
และดูไม่สวย
▲วิธีตักเจล
ตักตามขอบกระปุกขึ้น
▼ทาเจลรองพื้นเล็บให้ละเอียด!
▼ถ้าเจลติดกับหนัง…
ใช้ไม้ส้มเช็ดออก
▼เล็บที่ทาเจลรองพื้น
▼เข้าเครื่องอบ LED ให้แห้ง!
（※เวลาอบขึ้นอยู่กับเจลรองพื้นหรือเครื่องอบ）
▼ถ้าอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีทาสี ขอเชิญดูบทความนี้ได้
<ブログ記事紹介>
🌼เคล็ดลับ
แม้เข้าเครื่องอบเจล LED ให้แห้ง แต่ถ้ายังมีเจลที่ไม่แห้ง แตะแล้วเหนียว!!
（ทั้งเจลรองพื้น, สีเจล, เจลเคลือบ）
เป็นเรื่องปกติค่ะ!
โดนนิ้วมีรอย ทาเจลใหม่ก็ไม่เห็นแล้ว
Step２：ทาสีเจล（รอบแรก）
ถ้าเจลรองพื้นแห้งแล้ว จะทาสีเจล
หน้าเล็บยังเหนียว ก็ยังไม่ต้องเช็ด ทาสีเจลเลย
▼ใช้พู่กันเดิมทาสีเจล ดังนั้นใช้กระดาษทิชชูเช็ดเจลรองพื้นที่เกาะอยู่ที่พู่กันให้ออก
เอาสีเจลนิดนึงทาบนเจลรองพื้น
ถ้าตักสีเจลเยอะ จะทาแล้วไม่เสมอกัน ต้องระวังนะคะ!
🌼เคล็ดลับ
ระวังการกดนำ้หนักกับพู่กัน!
ถ้ากดหนัก สีจะไม่ติดกับเล็บ
ให้พู่กันนอน ทาเบาๆ ไม่ให้ปลายพู่กันขยาย
▼ทาสีเจลแล้ว
รอบแรกทาไม่เสมอกันนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร ทารอบสองรอบก็จะเสมอกัน
เข้าเครื่องอบให้แห้ง!
Step３：ทาสีเจล （รอบที่2）
สีเจลที่ทารอบแรกแห้งแล้ว ทาสีเจลเดียวกันอีกครั้ง
ทาสองรอบ
ทาสีเจลวิธีเดิมกับรอบแรก และเข้าเครื่องอบให้แห้ง
🌼เคล็ดลับ
ส่วนใหญ่ทาสีเจลสองรอบ แต่เจลบางชนิดทาแค่รอบเดียวカ
หรือถ้าทาสองรอบ แต่สียังจางๆ ทา3,4รอบก็ได้ ทาหลายครั้ง สีจะเข้มขึ้น
▲เล็บที่ทาสีเจลสองรอบ
Step４：ทาเจลเคลือบ ( top coat gel )
ทาสีเจลสองรอบและแห้งแล้ว สุดท้ายทาเจลเคลือบ
ทำให้เล็บแข็งแรง มีความแวววาวมากขึ้น
▼ก่อนอื่นทำความสะอาดพู่กันที่ทาสีเจล
เอากระดาษทิชชูชุบแอลกอฮอล์มาเช็ดจนสีเจลหมด
🌼เคล็ดลับ
ปริมาณเจลเคลือบจะ 2-3 เท่าของเจลรองพื้น
หลายคนแปลกใจที่ทาเจลเคลือบหนา
ถ้าทาหนา เล็บจะดูแวววาวฟรุ้งฟริ้ง
ทาน้อยก็จะไม่แวววาว
▼ทาเจลเคลือบทั่วเล็บ!
ทากว้างเท่ากับตอนทาเจลรองพื้น
▼เล็บที่ทาเจลเคลือบ
มีความแวววาว
เช็คก่อนว่าติดกับหนังไหม และเข้าเครื่องอบให้แห้ง!
Step５：เช็ดเจลที่ไม่แห้ง
ทาเจลเคลือบและเข้าเครื่องอบให้แห้งแล้ว เช็ดเจลที่ไม่แห้ง
เอาสำลีชุบแอลกอฮอล์สำหรับฆ่าเชื้อ คลุมเล็บเช็ดแรงตั้งแต่โคลนไปถึงปลายเล็บครั้งหนึ่ง
อย่าใช้หน้าเดิมเช็ดหลายรอบ!
เพราะเจลที่ไม่แห้ง จะกลับติดกับเล็บอีกครั้ง
🌼เคล็ดลับ
บางคนบอกว่า “ถ้าเช็ดแรงเกินไปแล้วกลัวเจลจะลอก…”
แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ ถึงแม้ถูกเช็ดแรงๆ เจลก็ไม่ลอกง่ายๆค่ะ＾＾
▼เช็ดแล้ว ใช้แผ่นขัดเล็บปรับทรงเล็บเบาๆ
🌼เคล็ดลับ
【เพิ่มเติม】
เหตุผลที่ใช้แผ่นขัดเล็บปรับทรงเล็บสุดท้ายคือ…
บางครั้งเจลอาจจะติดไม่เรียบและแห้ง หรือเจลจะเข้าไปหลังเล็บและแห้งไปเลย
ถ้าเป็นอย่างนั้น ใช้แผ่นขัดเล็บวางหลังเล็บและขัด จะได้เรียบกัน
หรือถ้าแกะเจลที่เข้าไปหลังเล็บ เจลเล็บจะลอก
ไม่ต้องแกะ แต่ใช้แผ่นขัดเล็บจะลอกเจลที่อยู่หลังเล็บเอง
▼เสร็จแล้ว!!!
ดูแวววาว
【เล็บเจลที่ทำสวยคือแบบนี้】
สุดท้ายนี้
ขอบคุณที่อ่านถึงจบเลย!
เป็นอย่างไรบ้างคะ？^^
คราวนี้ลงเรื่องที่หลายคนมาถาม
ครั้งแรก อาจรู้สึกยากนิดหน่อย
ไม่สำเร็จก็อย่าท้อนะคะ!!
โดยเฉพาะปรับทรงเล็บและการดันหนังเล็บก็ต้องฝึกทำถึงจะเก่งขึ้น
หลายคนที่มาเรียนก็ต้องทำหลายครั้งถึงจะเก่งขึ้น น้อยมากที่จะทำได้ตั้งแต่แรกๆ
ทำไม่สวยก็ไม่เป็นไร!
อย่ายอมแพ้ ชื่นชมกับการฝึกนะคะ^^